ในช่วงพ.ศ.2348 กษัตริย์ยาลองซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เหงียน ได้สถาปนาเมืองเว้เป็นราชธานี และสร้าง “พระราชวังไดนอย” (Dai Noi )ขึ้นอย่างใหญ่โตบนเนื้อที่ 52 ตารางกิโลเมตร ริมฝั่งแม่น้ำหอม โดยยึดเอาแบบอย่างและคติความเชื่อมาจาก “พระราชวังกู้กง” หรือ “พระราชวังต้องห้าม” ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

ซึ่งจากการยึดแบบอย่างจากจีน ทำให้หลายคนกล่าวว่าพระราชวังไดนอย เหมือนกับพระราชวังกู้กงทุกประการ เพียงแต่ย่อขนาดให้เล็กลงเท่านั้นเอง ดังนั้นพระราชวังไดนอย จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งอย่างคุ้นหูคุ้นปากว่า “พระราชวังต้องห้าม” แห่งเมืองเวียตนาม ลักษณะของพระราชวังมีกำแพง 2 ชั้น โดยกำแพงชั้นนอกยาวถึง 9,950 เมตร
เมื่อเดินผ่านกำแพงชั้นนอกเข้าไปแล้ว จะมีปืนใหญ่ 4 กระบอก ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ยาลองเช่นกัน โดยเชื่อว่าปืนใหญ่เหล่านี้ เป็นปืนของเทพเจ้า สร้างขึ้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพของราชวงศ์เหงียน

ปืนใหญ่ทั้ง 4 กระบอกที่เห็นนั้น ก็มีความหมายถึงฤดูกาลทั้ง 4 นั่นเอง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็มีปืนใหญ่อยู่เช่นเดียวกัน แต่มี 5 กระบอก หมายถึง ธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ซึ่งธาตุทั้ง 5 นั้น เชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์เราในการดำรงชีวิตอยู่บนโลก และตั้งแต่สร้างปืนใหญ่ทั้ง 9 กระบอกมาก็ยังไม่เคยมีใครได้ใช้งานเลยแม้แต่ครั้งเดียว ได้แต่เพียงตั้งโชว์แสดงแสนยานุภาพไว้เฉยๆเท่านั้น